แพ็กเกจ

แพ็กเกจเที่ยวชมสถานที่ 4แห่ง ราคาท่านละ 200บาท (แพ็กเกจเพิ่มเติมสถานที่่ละ 100บาท/ท่าน)

วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557

ความเป็นมาของสังขละบุรี-ด่านเจดีย์สามองค์

           สังขละบุรี มีคำขวัญว่า เมืองสามหมอก ดินแดนสามวัฒนธรรมคือมีทั้ง ไทย มอญ กะเหรี่ยง มีสะพานไม้
อุตมานุสรณ์ เป็นสัญลักษณ์เด่น ที่ใครมาก็ต้องมาเยือน สะพานไม้ที่ยาวที่สุดอันดับ2ของโลกแห่งนี้ พร้อมกับสัมผัสวัฒนธรรมแบบคนมอญ ทาแป้งมอญ การเทินของไว้ที่หัว และภาษาที่เป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งมีแง่มุมทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกด้วย เจดีย์สามองค์
           สังขละบุรี เป็นอำเภอที่ติดต่อกับชายแดนพม่า ห่างจากตัวเมืองประมาณ215 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากอำเภอ ทองผาภูมิ 74 กิโลเมตร เมืองชายแดนแห่งนี้ รายล้อมด้วยธรรมชาติและขุนเขาอัน เขียวขจี มีแม่น้ำซองกาเลีย ไหลจากต้นกำเนิดในประเทศพม่า พาดผ่าน อำเภอสังขละบุรีหล่อเลี้ยงผู้คน สองฟากฝั่งแม่น้ำ และเชื่อมสัมพันธ์ ชนชาติมอญทั้งสองประเทศ มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แม่น้ำซองกาเลียจึงเป็นชื่อเรียก จากภาษามอญแปลเป็น ไทยว่าฝั่งโน้นแม่น้ำซองกาเลียแบ่งแผ่นดินอำเภอสังขละบุรีออกเป็น สองฝั่ง ฝั่งหนึ่งคือตัวอำเภอ ซึ่งรวม สถานที่ราชการและสถานที่พักสำหรับ นักท่องเที่ยว ซึ่งคนส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่พูดภาษาไทย ภาคกลางส่วน อีกฝั่งหนึ่ง เป็นหมู่บ้านของชาวมอญทั้งที่ตั้งรกราก มานานนับร้อยปีและเพิ่ง อพยพเข้ามาใหม่สังขละบุรีเมืองที่ มีความงามหลากหลาย ทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม ของพี่น้องต่างเผ่าพันธุ์ ทั้งมอญ กระเหรี่ยง ไทย ลาว พม่า ฯลฯ อำเภอสังขละบุรีมีชาวมอญ อาศัยตั้งบ้านเรือน อยู่เป็นจำนวนมาก ตัวอำเภอตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่า"สามประสบ"คือบริเวณที่ลำน้ำสามสาย อันได้แก่ ห้วยซองกะเลีย ห้วยบิคลี่ และห้วยรันตี ไหลมาบรรจบกันเป็นของแม่น้ำแคว เมืองแห่งสายน้ำ ขุนเขา และผืนป่าอันอุดม เมืองที่มีความงาม หลากหลายทางเชื้อชาติ และวัฒนธรรม
               ด่านเจดีย์สามองค์ เป็นช่องเขาในทิวเขาตะนาวศรี ตั้งอยู่บนพรมแดนประเทศไทยและประเทศพม่า มีความสูง 282เมตรเหนือระดับน้ำทะเลช่องเขาดังกล่าวเชื่อมอำเภอสังขละบุรี ทางตอนเหนือของจังหวัดกาญจนบุรี กับอำเภอพญาตองซู ทางตอนใต้ของรัฐกะเหรี่ยง
ช่องเขานี้ได้เคยเป็นเส้นทางสัญจรทางบกเข้าสู่ทางตะวันตกของประเทศไทยมาตั้งแต่ครั้งอดีตกาล และเชื่อกันว่าเป็นจุดที่พระสงฆ์ชาวอินเดียซึ่งเดินทางมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศไทยเข้าสู่ประเทศในช่วงคริสต์ศตวรรษที่3 ระหว่างอาณาจักรอยุธยา (คริสต์ศตวรรษที่ 14-18)ช่องเขาดังกล่าวเป็นเส้นทางรุกรานหลักสำหรับชาวพม่า โดยมีบางครั้งที่กองทัพอยุธยาได้ใช้เป็นเส้นทางรุกรานพม่าเช่นกัน สงครามระหว่างอยุธยากับพม่าครั้งแรก คือ สงครามพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ช่องเขาดังกล่าวได้ชื่อตามกองเจดีย์ขนาดเล็กสามองค์ ซึ่งอาจถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายสมัยอยุธยาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ ปัจจุบัน ด่านเจดีย์สามองค์ตั้งอยู่บนพรมแดนไทย บางส่วนของพรมแดนไทย-พม่ายังมีกรณีพิพาทมาจนถึงปัจจุบัน

ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นได้สร้างทางรถไฟสายมรณะผ่านช่องเขาแห่งนี้ จึงมีอนุสรณ์รำลึกถึงเชลยศึกชาวออสเตรเลียหลายพันคน(โดยมีชาติสัมพันธมิตรและพลเรือนเอเชียจำนวนหนึ่ง)เสียชีวิตเนื่องจากใช้งานหนักในการก่อสร้างทางรถไฟ
พื้นที่แห่งนี้เป็นที่อยู่ของชาวเขาหลายเผ่า รวมไปถึงกะเหรี่ยงและมอญผู้ซึ่งไม่ได้รับหรือไม่ต้องการได้รับสัญชาติพลเมืองจากทั้งไทยและพม่า กองทัพแบ่งแยกดินแดนพยายามที่จะยึดครองช่องเขานี้จากพม่า โดยชาวมอญได้ควบคุมช่องเขามาจนกระทั่ง ค.ศ. 1990 แต่ในปัจจุบัน กองทัพพม่าได้เข้าควบคุมช่องเขานี้อีกครั้งหนึ่ง
ด่านเจดีย์สามองค์ มีเนื้อที่ 343,750 ไร่ ประกาศเป็นเขตอุทยานฯ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2518 มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือเขตสิ้นสุดชายแดนไทยด้านทิศตะวันตก ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองลู ไปตามทางหลวงหมายเลข 323โดยก่อนถึงตัวอำเภอสังขละบุรี 4 กิโลเมตร จะมีทางแยกด้านขวาไปด่านเจดีย์สามองค์ เป็นระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร เส้นทางลาดยางตลอดสาย พระเจดีย์สามองค์นี้เดิมเรียกว่า หินสามกอง เป็นที่สักการะของคนไทยโดยทั่วไปก่อนเดินทางออกจากเขตแดนไทยเข้าสู่เขตแดนพม่า ต่อมาในปี พ.ศ. 2472 พระศรีสุวรรณคีรี เจ้าเมืองสังขละบุรีได้เป็นผู้นำชาวบ้านก่อสร้างเจดีย์ขนาดเล็กสามองค์ดังที่เห็นในปัจจุบัน นอกจากนี้ด่านเจดีย์สามองค์ยังเป็นช่องทางเดินทัพที่สำคัญของไทยและพม่าในอดีต บริเวณด่านเจดีย์สามองค์ มีร้านขายสินค้าจากประเทศพม่า นักท่องเที่ยวสามารถข้ามชายแดนเข้าไปชมตลาดพญาตองซู ซึ่งเป็นตลาดชายแดนที่มีการจำหน่ายสินค้าของพม่า โดยนักท่องเที่ยวจะต้องเสียค่าผ่านด่าน (ฝั่งประเทศพม่า) ตั้งแต่เวลา06.00-18.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ด่านตรวจคนเข้ามืองสังขละบุรี โทร. 0 3459 0105, 0 3459 5335
สถานที่น่าสนใจใกล้เคียง
น้ำตกตะเคียนทอง เป็นน้ำตกที่ขึ้นอยู่กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ในบริเวณเทือกเขาตะนาวศรีซึ่งกั้นแนวเขตชายแดนไทย-พม่าในเขตอำเภอสังขละบุรี ตัวน้ำตกมีต้นน้ำอยู่ในเขตประเทศพม่าไหลเลาะเรื่อยมาตามแนวเขาที่กั้นเขตแดนสู่ประเทศไทยที่ห้วยซองกาเลีย จากความอุดมสมบูรณ์ของป่าทำให้เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี เส้นทางเดินสู่ตัวน้ำตกชั้นแรกใช้เวลาประมาณ30 นาที เป็นทางราบปกคลุมด้วยดงไผ่ หวาย เฟิร์นและไม้ใหญ่ยืนต้นนานาพันธุ์ บางช่วงลัดเลาะลำธารน้ำ บางช่วงจะเห็นสายน้ำไหลมาจากหลายทิศทางกระจายออกไปเป็นแอ่งน้ำหรือลานกว้าง ซึ่งน้ำตกในแต่ละชั้นมีความงดงามแปลกตากันออกไป ซึ่งการเดินทางเที่ยวชมนี้ ต้องใช้รถขับเคลื่อน4 ล้อ ในการเดินทาง และควรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ในการเดินทางเที่ยวชมน้ำตก เวลาเปิดทำการนำครับ 8.30-17.00 น. (สามารถค้างแรมได้)

ยินดีต้อนรับสู่ AEC

พบกับทีมงานตัวน้อยในท้องถิ่น นำทีมโดย อบต.ต้น

ทริปแรกที่จะนำพาท่านไปคือ วัดเสาร้อยต้นเป็นวัดเก่าแก่ของหลวงพ่ออุตตะมะ

ทริปที่สองคือ วัดเจดีย์ทอง ตั้งอยู่บนยอดเขาที่มีบรรยากาศ
และทิวทรรศที่สวยงามมาก

ทริปที่สาม คือ เยี่ยมชมตลาดพม่า มีของป่ามากมายหลายชนิดตามฤดูกาล
อีกทั้งยังมีเครื่องประดับจากพม่ามาให้คุณๆเลือกซื้อเลือกหากัน
หรืออยากมีผิวสวยเหมือนสาวพม่าก็ต้องแป้งทานาคา


ที่สุดท้ายคือ ร้านคิวตี้ฟรี เป็นร้านขายเหล้าต่างประเทศชื่อดัง
เลือกซื้อกันในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ขอบอกว่าของจริงนะครับ
ที่มีราคาถูกก็เพราะว่าของเขาปลอดภาษี แต่ซื้อได้ในจำนวนจำกัดนะครับ



บรรยากาศวัดเสาร้อยต้น

วัดเสาร้อยต้น รูปแบบเป็นของชนชาติมอญ

บรรยากาศข้างในเป็นแบบนี้ครับ

มีสองชั้นครับ

นี้ไงครับที่มาชองชื่อวัดเสาร้อยต้น

ชมบรรยากาศด้านนอกกันบ้าง มีเลี้ยงสัตว์พิ้นบ้านด้วย อืม!!!กินดีอยู่ดีเชียว

นักท่องเที่ยวมากมาย

เก็บภาพความประทับใจกัน ชื่นหมื้นกันทุกคนไป

รูปปั้นพระบิณฑบาตร ผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันสร้างคนละองค์เป็นแถวยาวอิ่มบุญกันไป

เป็นไงครับน่าประทับใจมาก

ทำบุญไหว้พระกันหน่อย สาธุ!!!!!!

โด่งดังมากดาราไทยเราก็มา พี่พีท ทองเจือ

บรรยากาศวัดเจดีย์ทอง

วัดเจดีย์ทองตั้งอยู่บนยอดเขาสูง บรรยากาศยามเช้าจะมีหมอกหนาสวยงามมาก

เก็บภาพความประทับใจกลับบ้าน

คณะทัวร์ชื่นชมทิวทัศน์ กำลังเก็บภาพความประทับใจกันอยู่

ชื่นชมความสดชื่นของอากาศบนยอดเขา

กรุ๊ปนี้มาศึกษาดูงานชื่นชมกันใหญ่เลย

ทิวทัศน์เป็นไงครับ สุดยอดดดดดดด






ตลาดพม่า

เที่ยวชมตลาดพม่า ส่วนใหญ่จะเป็นของป่าตามฤดูกาล
 บรรยากาศเหมือนตามชนบทบ้านเรา


ตลาดพม่า
เกาลัดพม่าคั่วกันเห็นๆ สูตรโบราณ

ระกำ เป็นของป่า สำหรับสาวๆ ที่ชอบความเปรี้ยว


มะนาว ลูกเท่าฝ่ามือเลย ว้าวววว


กล้วยป่า รูปร่างเหมือนกล้วยน้ำว้าแต่รสชาติเหมือนกล้วยไข่ อร่อยมาก
ลูกใหญ่เพียงแค่1ลูกก็ทำให้หายหิวได้เลย

ลูกเนียง กินกันสดๆ รึว่าจะต้ม หรือเอาไปดอง ก็อร่อย


หน่อไม้ เป็นของป่าเช่นกัน ที่สำคัญราคาถูกมาก
ถูกซะจนคนเมืองต้องรีบซื้อติดไม้ติดมือกับบ้านกันเลยทีเดียว

ขนมพิ้นบ้านของชาวพม่า หอมน่ารับประทาน ชิ้นก็ใหญ่ราคาก็แสนจะถูก
คนไทย คนพม่า เดินช้อปกันกระจาย คนแน่นมาก


ของป่า สัตว์ป่า พืชผลต่างๆ อย่างว่าป่าบ้านเขายังอุดมสมบูรณ์ดีอยู่
ของกินมีมากมายให้เลือก

ผักสดๆกันเลย มีเงินไม่กี่สิบ ก็หาซื้อได้หลายอย่าง ราคาถูกมาก
ไม่เหมือนบ้านเราผักก็แพง อะไรก็แพง เงิน100บาท ยังไม่ได้กับข้าวสักมื้อเลย

ดอกไม้สวยๆ มีทุกวัน กำละ 80-120 บาท ช่อใหญ่ๆ
ชาวบ้านแถวนี้นิยมนำไปขึ้นหิ้งพระใส่แจกันไว้อยู่ได้เป็นอาทิตย์


มีอยู่หลายร้าน มีแป้งทานาคาด้วย อยากผิวสวยเหมือนพม่า
ก็เลือกซื้อกันไป มีหลายกลิ่นหลายสูตร
พ่อค้าชาวพม่า กำลังมาส่งของทะเล

ปูทะเลตัวเป็นๆ น่ากินมากๆเลย ของก็สด
ก็ทะเลอยู่ห่างออกไปประมาณ 100กิโลเมตรน่าจะได้

ร้านคิวตี้ฟรี



ร้านขายเหล้าต่างประเทศ ยี่ห้อดัง เป็นของปลอดภาษีครับ
ราคาถูกจนต้องตะลึ่งกัน